แนะนักวิจัยลดอีโก้หันมาทำวิจัยร่วมภาคธุรกิจมากขึ้น

วันอังคารที่ 7 พฤษภาคม 2556 เวลา 17:14 น.

แนะมหาวิทยาลัย ลดอีโก้ส่วนตัวแต่หันมาทำวิจัยร่วมภาคธุรกิจให้มากขึ้นเพื่อเพิ่มมูลค่างานวิจัย ไม่ใช่ทำแต่ตามความต้องการนักวิจัย แต่ไม่ตอบโจทย์ของโลก

วันนี้(7พ.ค.)ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ คุณหญิงลักษณาจันทร เลาหพันธุ์ นายกสมาคมอาเซียน-ประเทศไทย กล่าวตอนหนึ่งบนเวทีเสวนาพิเศษ "ความพร้อมในการแข่งขันของการอุดมศึกษาไทยบนเวทีประชาคมอาเซียน" ในงานประชุมสุดยอดมหาวิทยาลัยวิจัยแห่งชาติ ครั้งที่2 ว่า ความท้าทายอย่างหนึ่งของวงการศึกษาในเวทีอาเซียนคือการผลิตบุคลากรให้สอดรับกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น โดยปัจจุบันการศึกษาของไทยอยู่ในอันดับรั้งท้ายเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ในอาเซียน โดยเฉพาะทักษะความรู้วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และภาษาอังกฤษ ดังนั้นหากจะมีการวิจัยเกิดขึ้นก็สามารถพิจารณาจุดแข็งจุดอ่อนต่างๆ เหล่านี้ร่วมด้วย พร้อมกันนี้ตนอยากเสนอให้วงการศึกษาเปลี่ยนกระบวนทรรศน์ในการทำงานวิจัย โดยเลิกนั่งเทียนเขียนหัวข้อวิจัยเอง แต่จะต้องเริ่มจากการพูดคุยกับภาคธุรกิจและหาพันธมิตรในการทำงานร่วมกัน เพราะทุกมหาวิทยาลัยไม่จำเป็นต้องถนัดทุกเรื่อง ดังนั้นแต่ละมหาวิทยาลัยควรร่วมมือกันทำงานวิจัย โดยกระจายขอบเขตงานวิจัยไปตามทักษะและความถนัดของนักวิจัยแต่ละสถาบัน

"ถ้ามหาวิทยาลัยยังคิดว่าตัวเองเจ๋งด้านใดด้านหนึ่ง แล้วก็ทำวิจัยด้านนั้นด้านเดียวมันไม่ตอบโจทย์ของโลก ดังนั้นควรที่จะเปิดใจกว้างนิดนึง คิดใหม่ ไม่ใช่ทำเฉพาะที่เราถนัดอย่างเดียว แต่จะต้องมีการเชื่อมโยงทุกภาคส่วนเพื่อต่อยอดและเพิ่มมูลค่างานวิจัยที่เราทำอยู่ ไม่ใช่เพียงแค่ตอบโจทย์ความพึงพอใจของผู้ทำงานวิจัยอย่างเดียว" คุณหญิงลักษณาจันทร กล่าว

ศ.ดร.อมเรศ ภูมิรัตน ผอ.โครงการปริญญาเอกกาญจนาภิเษก สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย(สกว.) กล่าวว่า การแข่งขันที่เกิดขึ้นในโลกปัจจุบันจะต้องพึ่งพานวัตกรรมใหม่เป็นหลัก ดังนั้นประเทศไหนที่ส่งเสริมการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมในวันนี้ก็จะมีโอกาสทางธุรกิจมากในอนาคต ซึ่งปัจจุบันมาเลเซียมีการเร่งลงทุนด้านงานวิจัยเพื่อพัฒนานวัตกรรมใหม่เพิ่มขึ้นมาก จนมีสัดส่วนผลงานวิจัยที่ได้รับการตีพิมพ์แซงทุกประเทศในอาเซียน ดังนั้นในส่วนของไทยจะต้องเร่งทำงานวิจัยเพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆให้มากขึ้น โดยใช้วิธีกระตุ้นให้ภาคเอกชนลงทุนด้านการวิจัยให้ถึงเป้าหมายร้อยละ 70

ขอขอบคุณ
ที่มาข้อมูลและภาพประกอบ
http://www.dailynews.co.th/education/202816