มหกรรมวิทย์ 56 เตรียมแสดงข้าวโพดหวานที่สุดในโลก 6-21 ส.ค.

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์     31 กรกฎาคม 2556 15:21 น.    

           ข้าวโพดหวานที่สุดในโลกและข้าวไรซ์เบอรีที่พร้อมจัดแสดงในงานมหกรรมวิทย์

       ก.วิทย์จัดงาน "มหกรรมวิทย์ 56" ระหว่าง 6-21 ส.ค.นี้ ณ ไบเทคบางนา เตรียมผลงานวิจัยไทย อาทิ ข้าวโพดหวานที่สุดในโลก น้ำมันจากสาหร่าย อุกกาบาตจากนอกโลก พร้อมดึง "บักจ่อย" จากละครคุณชายรัชชานนท์เป็นพรีเซนเตอร์งาน
       
       นายพีรพันธุ์ พาลุสุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และ รศ.ดร.วีระพงษ์ แพสุวรรณ ปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ร่วมแถลงเมื่อวันที่ 31 ก.ค. ณ จตุรัสวิทยาศาสตร์ อพวช. จามจุรีสแควร์ ถึงการจัดงานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ประจำปี 2556 (National Science and Technology Fair 2013) ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 6 - 21 ส.ค.นี้ ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมไบเทค บางนา
       
       ทั้งนี้ มหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ประจำปี 2556 จัดขึ้นเนื่องในสัปดาห์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ โดยกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ เพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว “พระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย” และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว “พระบิดาแห่งเทคโนโลยีของไทย” และ “พระบิดาแห่งนวัตกรรมไทย”
       
       มหกรรมในปี 2556 จัดขึ้นภายใต้แนวคิด ‘‘ทันโลกทันวิทย์ จุดประกายความคิด สู่อาเซียน’’ และปีนี้ยังถือเป็นการร่วมฉลองปีสากลแห่งความร่วมมือเรื่องน้ำ ตามมติขององค์การการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) จึงได้มีการจัดแสดงนิทรรศการและกิจกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำ โดยเน้นนำเสนอผลงานความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่ทันสมัย รวมถึงผลงานของนักวิทยาศาสตร์ของไทย
       
       การจัดงานในครั้งนี้ นายพีระพันธ์ระบุว่าได้รับความร่วมมือด้วยดีทั้งจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน มากกว่า 150 หน่วยงาน โดยมีหน่วยงาน อาทิ สมาคมวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ กระทรวงกลาโหม, กระทรวงเกษตรและสหกรณ์, กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, กระทรวงศึกษาธิการ, กระทรวงสาธารณสุข, กระทรวงคมนาคม และกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมด้วย 16 หน่วยงานที่อยู่ในสังกัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
       
       "ในปีนี้พิเศษกว่าทุกปีจะผนวกงานเทคโนโลยีของไทยหรือ เทคโนมาร์ท ประจำปี 2556 ซึ่งเป็นนิทรรศการที่จัดแสดงเพื่อเผยแพร่ผลงานทางเทคโนโลยีและนวัตกรรมของคน ไทย และสร้างโอกาสการซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อส่งเสริมให้เกิดแรงบันดาลใจในการคิดค้นพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม" นายพีระพันธ์กล่าว โดยนิทรรศการมหกรรมวิทย์ฯ ส่วนหนึ่งจะร่วมจัดแสดงในงานเทคโนมาร์ท ระหว่าง 14 - 18 ส.ค. ณ ลานหน้าเซ็นทรัลเวิลด์
       
       ด้าน รศ.ดร.วีระพงษ์ แจกแจงถึงการจัดนิทรรศการต่างๆ ว่า แบ่งเป็นโซน ดังนี้
       
       • โซนนิทรรศการเทิดพระเกียรติรัชกาลที่ 4 และรัชกาลที่ 9 รวมทั้งพระบรมวงศานุวงศ์
       • โซนนิทรรศการพลังงานเพื่ออนาคต Hi-Light Live Action Theatre เรื่อง วิกฤติพลังงาน รวมพลังกู้โลก เทคนิคการถ่ายทำบน “กรีนสกรีน” ให้ผู้เข้าชมได้มีส่วนร่วมในการแสดงบทบาท ฮีโร่ช่วยโลกจากวิกฤติพลังงาน
       • โซนนิทรรศการ “การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลกและสิ่งแวดล้อม” หรือ Climate Change เป็นการนำเสนอสาเหตุของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลกตั้งแต่อดีตจนถึง ปัจจุบัน ซึ่งมีสาเหตุทั้งจากธรรมชาติและน้ำมือมนุษย์ ตลอดจนผลลัพธ์ที่เกิดจากอุณหภูมิที่สูงขึ้น และผลกระทบต่างๆ
       • โซนนิทรรศการ “วิกฤตอาหาร” ไฮไลท์เป็นการจำลองเทคโนโลยีฟาร์มหมู ฟาร์มไก่ระบบปิด การจัดแสดงเทคโนโลยีช่วยเพิ่มผลการผลิต
       • นิทรรศการ“เทคโนโลยีการแพทย์และยา” โรคภัยไข้เจ็บและโรคอุบัติใหม่, แสดงโรคภัยไข้เจ็บชนิดต่างๆและสาเหตุอันเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนา เทคโนโลยีทางการแพทย์ วิวัฒนาการทางการแพทย์ (ครั้งแรกของโลก), แสดงเส้นเวลาของวิวัฒนาการทางการแพทย์ทั้งเรื่องยาและการรักษาที่เป็นครั้ง แรกของโลก เทคโนโลยีในการรักษา, แสดงเทคโนโลยีและกรรมวิธีในการรักษาคนไข้แบบต่างๆทั้งในส่วนของยา, เครื่องมือแพทย์, และแพทย์ทางเลือก 4 นวัตกรรมทางการแพทย์, แสดงงานวิจัยและเทคโนโลยีแห่งอนาคตที่จะหยุดยั้งโรคภัยไข้เจ็บต่างๆอย่างมี ประสิทธิภาพ Hi-Light เครื่อง Kinetic X-ray เป็นเครื่องมือที่ใช้ Kinetic Sensor จับการเคลื่อนไหวของผู้เล่น แล้วแสดงผลเป็นโครงร่าง (โครงกระดูก) บนหน้าจอ
       • นิทรรศการ“ภูมิปัญญาสู่นวัตกรรมการจัดการน้ำ” ไฮไลท์คือการจำลองเรื่อง การเดินทางของน้ำร่วมผจญภัยตามสายน้ำไปกับ 4D Simulator ที่จะพาผู้ชมไปดูตั้งแต่ต้นกำเนิดของสายน้ำไปจนถึงมหาสมุทร
       • นิทรรศการ“เทคโนโลยีสารสนเทศ” นำเสนอทุ่นเตือนภัยสึนามิ เป็นหนึ่งในหลายๆอย่างของเทคโนโลยี ที่นำมาใช้เพื่อการตรวจหาเหตุที่ทำให้เกิดภัยพิบัติ เพื่อจะได้เตือนและเตรียมการป้องกันล่วงหน้า ไฮไลท์คือโฮโลแกรมเทคโนโลยีเพื่อการท่องเที่ยว ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสะดวก รวดเร็ว ถูกต้อง และปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยวและผู้ประกอบการ
       • โซนนิทรรศการ “เทคโนโลยีอุตสาหกรรม” ไฮไลท์คือแผนที่แสดงส่วนประกอบของรถยนต์ที่เชื่อมโยงไปยัง 5 อุตสาหกรรมหลัก ของประเทศ คือ อุตสาหกรรมยาง สิ่งทอ อิเล็กทรอนิกส์พลาสติก และโลหะ
       
       "มหกรรมวิทยาศาสตร์ฯ ในปีนี้ มีการดำเนินการปรับปรุงรูปแบบการจัดแสดงนิทรรศการให้ทันสมัยขึ้น เพิ่มกิจกรรมสำหรับทุกเพศทุกวัย ได้ร่วมสนุกและทดลอง โดยมีนิทรรศการและกิจกรรมเด่นๆ ที่ไม่ควรพลาดจากหน่วยงานต่างๆ ของกระทรวง" รศ.ดร.วีระพงษ์ กล่าว
       
       ตัวอย่างผลงานของหน่วยงานในระทรวงวิทยาศาสตร์ที่ รศ.ดร.วีระพงษ์ ยกตัวอย่าง อาทิ นิทรรศการดาวหางแห่งปีและอุกกาบาตจากนอกโลก ของสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (สดร.) ข้าวโพดหวานที่สุดในโลก โดยการปรับปรุงของนักวิชาการสถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีชั้นสูง สำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ (สวทน.) และ น้ำมันที่สกัดจากสาหร่าย โดยสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) เป็นต้น
       
       ทั้งนี้ เยาวชน ครอบครัว และประชาชนทั่วไป สามารถเข้าชมงาน “มหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ 2556” ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ตั้งแต่วันที่ 6 - 21 ส.ค. 56 เวลา 09.00 - 20.00 น. ณ ไบเทค บางนา และ งานเทคโนมาร์ท ในวันที่ 14 - 18 ส.ค. ณ ลานหน้าเซ็นทรัลเวิลด์ เวลา 10.00 – 20.00 น.
       
       สำหรับโรงเรียนหรือสถาบันการศึกษาที่ต้องการเข้าชมเป็นหมู่คณะ ติดต่อ 02 -577 - 9960
       ส่วนเวลาที่เหมาะสมของการเข้าชมสำหรับประชาชนทั่วไป จันทร์-ศุกร์ เวลา 15.00 - 20.00 น. และเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่ 09.00 – 20.00 น. พร้อมพบ 2 พรีเซนเตอร์ของงาน คือ "จ่อย" (พงศกร เมตตาริกานนท์) และ พลอย (ภัทรากร ตั้งศุภกุล) แห่งละครคุณชายรัชชานนท์ได้ภายในงาน

          รศ.ดร.วีระพงษ์ แพสุวรรณ (ซ้าย) และ นายพีระพนธ์ พาลุสุข (ขวา) ร่วมแถลงการจัดงานมหกรรมวิทย์

           น้ำมันจากสาหร่าย

           อุกกาบาต

       ติดตามข้อมูลข่าวสารและรายละเอียดงานได้ที่ www.nstf2013.com / www.facebook.com/nstf2013 / instagram ที่ nst2013thailand call center 1313 และสนใจเข้าชมเป็นหมู่คณะโทร. 02-5779960

ขอขอบคุณ
ที่มาข้อมูลและภาพประกอบ
http://www.manager.co.th/Science/ViewNews.aspx?NewsID=9560000094223