ไม้วงศ์ยางกับเห็ดระโงก - ดินดีสมเป็นนาสวน

?ไม้วงศ์ยางกับเห็ดระโงก - ดินดีสมเป็นนาสวน?

 

เห็ดระโงกจัดเป็นราไมคอร์ไรซา (mycorrhizas) ที่มีความสัมพันธ์กับไม้วงศ์ยางในลักษณะการอยู่ร่วมกันแบบพึ่งพาอาศัยกัน

โดยเดลินิวส์ วันพุธ 13 พฤศจิกายน 2556 เวลา 00:00 น.

โครงการศูนย์พัฒนาการเกษตรภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ กรมป่าไม้ เป็นโครงการในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ โดยได้พระราชทานพระราชดำริเกี่ยวกับเรื่องการทำกินในพื้นที่ป่าไม้ของราษฎรว่า “ให้กรมป่าไม้  พิจารณาจัดหาพื้นที่ทดลองทำโครงการ โดยส่งเสริมอาชีพเพื่อให้คนอยู่ร่วมกับป่าได้โดยไม่ทำลายป่า” โครงการฯ จึงนำแนวพระราชดำริ มาเป็นแนวทางในการดำเนินงาน โดยได้จัดทำแปลงสาธิตแนวพระราชดำริ ด้วยการใช้ระบบวนเกษตรมาเป็นต้นแบบในการส่งเสริมอาชีพให้มีการปลูกไม้วงศ์ยาง (Dipterocarpaceae) ได้แก่ ยางนา  ตะเคียนทอง  กระบาก และศึกษาวิจัยการเพาะเห็ดป่ากินได้กับไม้วงศ์ยางควบคู่กันไป

ในปี พ.ศ. 2555 ที่ผ่านมา  พื้นที่แปลงตัวอย่างปลูกไม้ยางนา อายุ 5 ปี  ขนาดพื้นที่ 800 ตารางเมตร โครการเก็บเห็ดป่าได้ ประมาณ 130 กิโลกรัม เห็ดป่าเหล่านี้เป็นแหล่งอาหารให้กับชุมชน  และสร้างรายได้ให้เกษตรกรที่ปลูกไม้วงศ์ยางในรูปแบบวนเกษตรได้

โครงการฯ ได้มีการศึกษาวิจัยต่อยอดการเกิดเห็ดระโงกในไม้วงศ์ยางในช่วงฤดูแล้ง (พฤศจิกายน–เมษายน) โดยได้ทดลองควบคุมปัจจัยเรื่องปริมาณความชื้น ปริมาณแสง และความหนาแน่นของชั้นฮิวมัส ในพื้นที่ทดลองของโครงการฯ ซึ่งผลที่ได้จากการเก็บข้อมูล พบว่าปัจจัยดังกล่าวมีผลต่อการเกิดเห็ดระโงกนอกฤดูในไม้วงศ์ยาง การเกิดของดอกเห็ดในฤดูแล้งเกิดบริเวณราก ซึ่งสามารถหาน้ำหาอาหารได้ดี ขนาดของดอกเห็ดมีขนาดค่อนข้างโตกว่าเห็ดที่เกิดในช่วงฤดูฝน โครงการฯ ยังได้ร่วมกับ อาจารย์ ดร.เชิดชัย  โพธิ์ศรี  คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม จังหวัดพิษณุโลก ผู้เชี่ยวชาญด้านราไมคอร์ไรซา  สำรวจและเก็บตัวอย่างเพื่อไปคัดแยกเชื้อราไมคอร์ไรซาที่อยู่ในเซลล์รากของต้นกล้าไม้วงศ์ยาง และจากดอกเห็ดด้วย

เห็ดระโงกจัดเป็นราไมคอร์ไรซา (mycorrhizas) ที่มีความสัมพันธ์กับไม้วงศ์ยางในลักษณะการอยู่ร่วมกันแบบพึ่งพาอาศัยกัน เอื้ออำนวยประโยชน์ซึ่งกันและกันกับเซลล์ของรากพืช โดยที่ต่างฝ่ายก็ได้รับประโยชน์ (mutualistic symbiosis) ราจะช่วยดูดน้ำและธาตุอาหารจากดิน โดยเฉพาะฟอสฟอรัส (P) ให้แก่พืช ส่วนราก็ได้สารอาหารจากพืชที่ขับออกมาทางรากสำหรับใช้ในการเจริญเติบโต เช่น น้ำตาล โปรตีนและวิตามินต่าง ๆ นอกจากนี้ราไมคอร์ไรซายังช่วยป้องกันรากพืชจากการเข้าทำลายของเชื้อก่อโรคพืช    ต้นกล้าที่มีราไมคอร์ไรซาจึงมีการอยู่รอดมากกว่าพืชที่ไม่มีราไมคอร์ไรซา เพราะสามารถทนแล้งและธาตุอาหารต่ำได้ดีกว่าต้นกล้าที่ไม่มีราไมคอร์ไรซา เมื่อความชื้นและปัจจัยแวดล้อมอื่น ๆ เหมาะสมราไมคอร์ไรซาจะเจริญและพัฒนาเป็นดอกเห็ดให้เห็นได้

เห็ดระโงกเป็นเห็ดที่นิยมรับประทานกันอย่างแพร่หลายในแถบเอเชีย เช่น ในประเทศไทยมีเห็ดระโงกวางขายในตลาดท้องถิ่น เป็นที่นิยมบริโภคเช่นกัน ราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 200 บาท ชาวอีสานถือว่าเห็ด

ระโงกเป็นราชาเห็ดอีสาน เห็ดระโงกเริ่มออกเมื่อต้นฤดูฝน ราวเดือนกรกฎาคมเรื่อยไปจนสิ้นฤดูฝน เห็ดระโงกจึงเป็นทั้งเห็ดป่าไมคอร์ไรซา  และแหล่งอาหารธรรมชาติที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจชุมชน

สำหรับการใส่หัวเชื้อราเห็ดระโงก ทางโครงการฯ ได้มีการใส่หัวเชื้อให้กับกล้าไม้ตั้งแต่กล้าอยู่ในถุงเพาะชำโดยการรดบริเวณโคนต้น  และเมื่อนำรากของต้นไม้มาตรวจจะพบลักษณะปลายรากหาอาหารของต้นไม้วงศ์ยางมีลักษณะบวมพอง แตกกิ่งก้านมากมาย และพบเส้นใยราปกคลุมอยู่ชัดเจน ทำให้สันนิษฐานได้ว่าเห็ดระโงกมีความสัมพันธ์กับไม้วงศ์ยางแบบพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน ซึ่งแตกต่างจากเห็ดฟาง เห็ดนางฟ้า เห็ดนางรม เห็ดขอนขาว ที่เป็นราย่อยสลาย เห็ดพวกนี้จะย่อยเซลลูโลสเพื่อใช้เป็นแหล่งอาหาร 

โครงการศูนย์พัฒนาการเกษตรภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ โดยกรมป่าไม้  จึงได้มีการส่งเสริมให้มีการปลูกไม้วงศ์ยางในพื้นที่เกษตรกรรม พื้นที่สาธารณะหรือพื้นที่เสื่อม โทรม เพื่อเป็นแหล่งอาหารธรรมชาติให้กับชุมชน สร้างรายได้ รวมถึงการน้อมนำแนวพระราชดำริมาปรับใช้ให้สอดคล้องกับชีวิตประจำวันแบบพออยู่พอกิน พึ่งพาตนเองได้.

ขอบขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบ

http://www.dailynews.co.th/Content.do?contentId=194284