 |
| ถุงมือยางขนาดพอดีมือผู้สวม |
|
 |
เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมสร้างสีสันบน “ถนนสายวิทยาศาสตร์” รับวันเด็กแห่งชาติ สำหรับการทำถุงมือยาง ซึ่งเปิดโอกาสให้เยาวชนได้รู้จักการใช้ประโยชน์จากน้ำยางพารา และเรียนรู้เกี่ยวกับสารเคมีอย่างง่าย
การทำถุงมือยางเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่กรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.) จัดมาร่วมกิจกรรมในถนนสายวิทยาศาสตร์ที่จัดขึ้นโดยกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระหว่างวันที่ 9-11 ม.ค.57 เพื่อฉลองรับวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2557 โดยเยาวชนจะได้จุ่มมือลงในน้ำยางพาราที่ผสมสารเคมีเพื่อความคงตัว ก่อนปล่อยให้แห้งแล้วลอกออกเป็นถุงมือที่มีขนาดพอดีสำหรับแต่ละคน
น.ส.เสาวณี มุสิแดง อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์บริการ กล่าวว่า กรมวิทยาศาสตร์บริการเห็นความสำคัญของเด็กและเยาวชน ซึ่งจะสืบทอดอนาคตของชาติ จึงมีความจำเป็นที่เยาวชนต้องสานต่อแนวคิดและตระหนักในความสำคัญของการใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อพัฒนาประเทศ ในวันเด็กทุกปีทางกรมจึงได้นำความรู้วิทยาศาสตร์มาสร้างสรรกิจกรรมให้เด็กๆ ได้สนุกสนานภายในงานถนนสายวิทยาศาสตร์ฯ ของกระทรวง
“ปีนี้เราจัดเป็นสวนสนุก วศ.มีทั้งหมด 12 สถานี ซึ่งเด็กๆ จะได้สัมผัสและรับความรู้วิทยาศาสตร์ใกล้ตัวในชีวิตประจำวัน ได้แก่ การเข้าใจสารเคมีจากของใช้ เช่น แป้ง ลิปสติก โลชั่นทาผิว สเปรย์น้ำหอม สบู่ แชมพู การทำยาดมสมุนไพร การทำลิปบาล์มทาปาก การขึ้นรูปหล่อเซรามิกส์ และการทำถุงมือยาง เป็นต้น” น.ส.เสาวณีกล่าว
สำหรับน้ำยางพาราที่นำมาผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ นั้นมี 2 ลักษณะ คือ น้ำยางสด ซึ่งเป็นสารที่มีเนื้อยาง โปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน เกลือแร่ และน้ำเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งมักเก็บไว้ไม่นานและจะบูดง่าย มีเนื้อยาง 30-35% และน้ำยางข้น ที่แปรรูปมาจากน้ำยางสด โดยการปั่นเหวี่ยงเพื่อแยกเนื้อยางและหางน้ำยางออกจากกัน ได้น้ำยางข้นที่มีเนื้อยางแห้ง 60%
การนำน้ำยางไปใช้ประโยชน์มักเติมสารเคมีเพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติตามต้องการ เช่น สารช่วยความสเถียร สารวัลคาไนซ์เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ยาง เกิดการเชื่อมโยงระหว่างโมเลกุลยาง สารกระตุ้นปฏิกิริยาเพื่อเร่งอัตราการวัลคาไนซ์ยางเร็วขึ้น สารเร่งปฏิกิริยายางคงรูป สารป้องกันยางเสื่อม เป็นต้น
ทั้งนี้ ถนนสายวิทยาศาสตร์ฯ มีกิจกรรมวิทยาศาสตร์ให้เยาวชนได้ร่วมสนุกกว่า 50 สถานี สำหรับเยาวชน และโรงเรียนที่สนใจสามารถมาเที่ยวชมงานถนนสายวิทยาศาสตร์ กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ถนนพระรามที่ 6 ได้ตั้งแต่วันที่ 9-11 ม.ค.57 เปิดให้เที่ยวชมฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่าย ตั้งแต่ 9.00-17.00 น.โดยสามารถเดินทางได้ทั้งรถโดยสารประจำทางสาย 8, 44, 67, 97, ปอ.44, ปอ.157, ปอ.171, ปอ.509, ปอ.538 ตลอดจนรถไฟฟ้าบีทีเอส
หากต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติม ติดต่อได้ที่ องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ โทร.0 2577 9999
|
