พลังเล็กๆ ที่ยิ่งใหญ่ของนักศึกษา มจธ.

รศ.ดร.ศักรินทร์ ภูมิรัตน อธิการบดี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี และนายนันทิวัต ธรรมหทัย ผู้จัดการองค์กรสัมพันธ์และการสื่อสาร บริษัท โคคา-โคลา (ประเทศไทย) จำกัด เดินหน้าสร้างสังคมจักรยานในมหาวิทยาลัยและชุมชนรอบข้าง ส่งเสริมการใช้ชีวิตแอคทีฟอย่างยั่งยืนใน “โครงการสร้างสังคมจักรยานในมหาวิทยาลัยและชุมชนรอบข้างอย่างยั่งยืน” พร้อมมอบรางวัลแก่นักศึกษาที่ร่วมโครงการประกวดออกแบบระบบบันทึกข้อมูลการใช้จักรยานตัวต้นแบบ (Bike Tracking) เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่หันมาใช้จักรยานเพื่อสุขภาพที่แข็งแรงเมื่อวันก่อน ณ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี

การใช้ชีวิตกระฉับกระเฉงและออกกำลังกายให้เพียงพอเป็นส่วนหนึ่งของการเสริมสร้างสุขภาพให้แข็งแรง แต่ไลฟ์สไตล์ของคนในยุคปัจจุบัน ประกอบกับเทคโนโลยีและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ส่งผลให้คนไทยมีรูปแบบการใช้ชีวิตที่เคลื่อนไหวน้อยลง การปลูกฝังจิตสำนึกเรื่องดังกล่าวให้แก่เยาวชนเปรียบเสมือนการเพาะต้นกล้าให้เติบโตพร้อมสืบทอดแนวคิดอันนำไปสู่การปฏิบัติต่อไปในอนาคต .มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) และกลุ่มธุรกิจโคคา-โคลา ในประเทศไทย จึงร่วมมือกันใน “โครงการสร้างสังคมจักรยานในมหาวิทยาลัยและชุมชนรอบข้างอย่างยั่งยืน” สนับสนุนเยาวชนไทยใช้ชีวิตกระฉับกระเฉงและมีสุขภาพแข็งแรงด้วยการปั่นจักรยาน พร้อมจัดกิจกรรม “โครงการประกวดออกแบบระบบบันทึกข้อมูลการใช้จักรยานตัวต้นแบบ (Bike Tracking)” ให้นักศึกษาส่งนวัตกรรม Bike Tracking ที่พัฒนาขึ้นสำหรับจักรยานเข้าประกวดเพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้เยาวชนหันมาใช้จักรยานเป็นพาหนะมากขึ้น

รศ.ดร.ศักรินทร์ ภูมิรัตน อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี กล่าวว่า “หลังจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) ได้ร่วมมือกับกลุ่มธุรกิจโคคา-โคลา ในประเทศไทย เปิดตัว “โครงการสร้างสังคมจักรยานในมหาวิทยาลัยและชุมชนรอบข้างอย่างยั่งยืน” ภายใน มจธ. เมื่อเดือนสิงหาคมในปีที่ผ่านมา โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อดำเนินกิจกรรมในการสร้างสังคมจักรยานเพื่อสุขภาพอย่างยั่งยืนภายในมหาวิทยาลัยและขยายต่อไปยังชุมชนสังคมรอบข้าง โดยผู้บริหาร นักศึกษา บุคลากรในมหาวิทยาลัย รวมทั้งชุมชนโดยรอบต่างมีส่วนร่วมกับโครงการสังคมจักรยาน ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมามหาวิทยาลัยได้ดำเนินโครงการและกิจกรรมต่างๆ อย่างเป็นรูปธรรมผ่าน 5 กิจกรรมหลัก คือ 1.การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานจักรยาน 2.การพัฒนาระบบการบริหารจัดการและจัดทำฐานข้อมูลการใช้จักรยาน 3.กิจกรรมด้านนวัตกรรม 4.การจัดกิจกรรมส่งเสริมการสร้างสังคมจักรยานเพื่อสุขภาพที่ยั่งยืน 5.กิจกรรมการบูรณาการจักรยาน โดยทั้ง 5 กิจกรรมประสพผลสำเร็จเกินคาดกว่าที่ตั้งเป้าไว้ สำหรับ “โครงการประกวดออกแบบระบบบันทึกข้อมูลการใช้จักรยานตัวต้นแบบ (Bike Tracking)” เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมด้านนวัตกรรมที่เราต้องการผลักดันให้นักศึกษาโชว์ความสามารถด้านเทคโนโลยีควบคู่ไปกับสร้างแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่หันมาปั่นจักรยานเพื่อสุขภาพที่แข็งแรงกันมากขึ้น”

คณะกรรมการใช้เกณฑ์การตัดสิน 6 ด้าน ได้แก่ นัยสำคัญ ความล้ำสมัย ความสะดวกในการใช้งาน ความปลอดภัย ความประหยัด และการต่อยอดใช้งานได้จริง จาก 7 ทีมสุดท้ายที่ส่งผลงานเข้ามาชิงชัย สุดท้ายกรรมการตัดสินให้ทีม Cher Bar เจ้าของผลงาน การพัฒนา Application บน iOS ที่รวบรวมข้อมูลการบำรุงรักษาจักรยาน รับรางวัลชนะเลิศ นายสพณ พิทักษ์ นักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะวิศวกรรมศาสตร์ ตัวแทนทีม Cher Bar ทีมชนะเลิศอันดับ 1 กล่าวว่า “ทีมผมคิดค้นนวัตกรรมนี้บนพื้นฐานของแนวคิดการดูแลสิ่งที่มีอยู่ให้ดีๆ ถ้าเราดูแลไม่ดีของก็จะอยู่กับเราได้ไม่นาน เพราะจักรยานทุกคันในมหาวิทยาลัยไม่ใช่ของๆ เรา แต่เป็นทรัพย์สินของมหาวิทยาลัย ดังนั้น นักศึกษาที่นำไปใช้ควรดูแลให้ดีเพื่อจักรยานจะได้อยู่กับเรานานๆ” ผลงานทีม Cher Bar มีจุดเด่นอยู่ที่การพัฒนา application บนระบบปฏิบัติการ iOS มีตัวฮาร์ดแวร์ติดอยู่กับจักรยาน เพื่อเป็น Profile ของจักรยานแต่ละคัน และ Sync ข้อมูลผ่านมือถือ เน้นให้ผู้ใช้สามารถบำรุงรักษาจักรยานเบื้องต้น และเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน ผู้ใช้สามารถ video call มายังศูนย์เพื่อขอความช่วยเหลือ ระบบที่ออกแบบนี้ เหมาะสำหรับผู้ดูแลที่สามารถ track ข้อมูลจักรยานแต่ละคัน ว่ามีใครยืมคืนไปแล้วบ้าง นอกจากนั้น ยังสามารถ Sync ข้อมูลกับฐานข้อมูลจักรยานของมหาวิทยาลัยได้ เพื่อการใช้งานด้านอื่นๆ ต่อไปในอนาคต รวมไปถึงการติดต่อ “วินจักรยาน” ภายในมหาวิทยาลัยในการรับ-ส่งผู้ใช้ตามจุดต่างๆ ภายในมหาวิทยาลัยได้ “ผมหวังว่าผลงานชิ้นนี้ของผมและเพื่อนๆ จะสามารถเป็นตัวช่วยให้คนรุ่นใหม่หันมาใช้จักรยานเพิ่มมากขึ้น เพื่อสุขภาพที่แข็งแรงควบคู่ไปกับรักษาสิ่งแวดล้อมให้โลกเราน่าอยู่ขึ้นครับ” นายสพณ กล่าว

สำหรับรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ ทีม Biker App กับผลงานการพัฒนา Application บน Android นายรักษ์ สุวรรณรักษ์ นักศึกษาชั้นปีที่ 1 คณะวิศวกรรมศาสตร์ กล่าวว่า “แรงบันดาลใจของผลงานนี้มาจากการปั่นจักรยานกับครอบครัวและเกิดเป็นความคิดว่าจะทำอย่างไรให้การปั่นจักรยานเกิดประสิทธิภาพกับตัวเราได้มากที่สุด รวมไปถึงความปลอดภัยเมื่อเราปั่นไปที่ห่างไกล Application นี้สามารถแสดงประวัติการปั่นว่าผ่านจุดใดมาบ้าง โดยแสดงผลเป็นระยะทาง ความเร็ว เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินสามารถหาจุดขอความช่วยเหลือที่ใกล้ที่สุดได้ ในเรื่องการใช้งานต้องนำ Smart Phone ไปแตะกับ NFC tag ที่อยู่ติดกับจักรยาน และการเก็บข้อมูลการเดินทางก็จะเริ่มต้นขึ้น โดยส่งข้อมูลไปเก็บไว้ที่ Web server ต่อไป และสามารถเชื่อมต่อกับเฟซบุ๊คและโซเชียลเน็ตเวิร์คอื่นๆ ได้”

รองชนะเลิศอันดับ 2 ทีม Mega Bike ส่วนรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ ทีม Mega Bike กับการพัฒนา Application บน Android ที่มีระบบการนำทางด้วยเสียง นายอาซีส หยีหล้าหนี นักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะวิศวกรรมศาสตร์ กล่าวว่า “ผมและเพื่อนๆ คิดว่าไอเดียและเทคโนโลยีใหม่ๆ สามารถเปลี่ยนแปลงโลกได้ ผมหวังว่า application ของพวกผมจะสามารถเปลี่ยนพฤติกรรมคนรุ่นใหม่ให้หันมาใช้จักรยานเพื่อสุขภาพที่แข็งแรงมากขึ้น” สำหรับจุดเด่นผลงานของทีมนี้ คือ การพัฒนา Application บน Android ที่มีระบบการนำทางด้วยเสียง ทำให้ผู้ใช้ไม่ต้องหันไปมองหน้าจอบ่อยๆ และมีการเก็บข้อมูลการเดินทาง ระยะทาง เวลา ปริมาณ แบตเตอรี่ แคลอรีที่เผาผลาญระหว่างปั่นจักรยาน และมีฟีเจอร์ที่สามารถแคปเจอร์ภาพ สามารถโพสต์บนเฟซบุ๊คเพื่อแชร์ทริปการเดินทาง ส่วน Apps บนโทรศัทพ์ สามารถเก็บ Profile ของ user ที่ใช้ และเมื่อมีคนมายืมจักรยาน ก็จะมีการ Sync ข้อมูลกับจักรยานและมือถือได้อีกด้วย

“โครงการสร้างสังคมจักรยานในมหาวิทยาลัยและชุมชนรอบข้างอย่างยั่งยืน” ที่เกิดจากความร่วมมือของ มจธ. และกลุ่มธุรกิจโคคา-โคลาฯ รวมทั้งนักศึกษาและชุมชนใกล้เคียง นับเป็นหนึ่งในบทพิสูจน์ของการสร้างคุณค่าร่วมกันระหว่างภาครัฐ เอกชน และประชาชน เพื่อสร้างความยั่งยืนด้านการใช้จักรยานเพื่อสุขภาพให้เกิดขึ้นในสังคม และแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจของคนรุ่นใหม่ที่เป็นพลังเล็กๆ แต่ยิ่งใหญ่ในสังคม พวกเขาพร้อมช่วยผลักดันและปลูกฝังจิตสำนึกในด้านการออกกำลังกายในหมู่คนรุ่นใหม่เพื่อสุขภาพที่แข็งแรงสดใสต่อไปในอนาคต

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบ

http://www.banmuang.co.th/2014/05/พลังเล็กๆ ที่ยิ่งใหญ่ขอ/