มข.จับมือ EU จัดโต้วาทีอังกฤษระดับชาติ เสริมทักษะภาษาก้าวสู่ประชาคมโลก

มข.ร่วมกับ EU จัดการแข่งขันโต้วาทีภาษาอังกฤษระดับประเทศ ครั้งที่ 9 ชิงถ้วยพระราชทาน เยาวชนไทยเชื่อ เก่งภาษาอังกฤษได้เปรียบตลาดงานระดับสากล

          มหาวิทยาลัยขอนแก่น ร่วมกับ สำนักงานคณะผู้แทนสหภาพยุโรปประจำประเทศไทย (EU) จัดการแข่งขันโต้วาทีภาษาอังกฤษระดับประเทศ ครั้งที่  (9th European Union Thailand National Intervarsity Debate Championship) ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ณ ห้องประชุมพีรสิทธิ์  คำนวณศิลป์ วิทยาลัยการปกครองท้องถิ่น มหาวิทยาลัยขอนแก่น เยาวชนไทยเชื่อ เก่งภาษาอังกฤษ  ได้เปรียบตลาดงานระดับสากล
          ประชาคมโลกกำหนดให้ “ภาษาอังกฤษ” เป็นภาษาทางในการสื่อสารของนานาประเทศทั่วโลก ตลอดจนเป็นภาษากลางในระดับอาเซียน ดังนั้นมหาวิทยาลัยขอนแก่นจึงให้การสนับสนุนนักศึกษาในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษอย่างเข้มข้น เพื่อผลักดันนักศึกษาให้สามารถติดต่อและสื่อสาร และทำงานร่วมกับนานาประเทศได้อย่างสะดวก เนื่องจากประเทศไทยนับเป็นประเทศชั้นนำในกลุ่มอาเซียน มีความพร้อมทั้งด้านคมนาคม  ทรัพยากรอันอุดมสมบูรณ์  ความเจริญรุ่งเรืองทุกด้าน รวมทั้งความพร้อมด้านการสื่อสาร โดยเฉพาะการสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษ  ซึ่งเป็นที่ยอมรับว่าหากบุคลากรในตลาดแรงงานสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษในระดับดีมักมีโอกาสได้งานที่ดี และนั่นหมายถึงรายได้ ผลตอบแทนที่สูงตามไปด้วย 
          เป็นที่มาของการสนับสนุนโครงการ แข่งขันโต้วาทีภาษาอังกฤษระดับประเทศ ครั้งที่ จัดขึ้นโดยมหาวิทยาลัยขอนแก่น ร่วมกับ สำนักงานคณะผู้แทนสหภาพยุโรปประจำประเทศไทย (EU) ณ ห้องประชุมพีรสิทธิ์  คำนวณศิลป์ วิทยาลัยการปกครองท้องถิ่น  ระหว่างวันที่ 17-20 พฤษภาคม 2557 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเปิดเวทีให้นักเรียน นิสิต นักศึกษาทั่วประเทศได้พัฒนาวาทศิลป์ และทักษะการคิดเชิงวิพากษ์  ช่วยส่งเสริมทักษะด้านภาษาอังกฤษ ตลอดจนสนับสนุนวัฒนธรรมของการอภิปรายสนทนาอย่างสร้างสรรค์ในหมู่เครือข่ายเยาวชนทั่วประเทศ ทั้งนี้มีนักเรียน  นิสิต นักศึกษา เข้าร่วมแข่งขันกว่า 400 คน โดย สหภาพยุโรปให้การสนับสนุนเยาวชนไทยให้มีพื้นที่ในการฝึกฝนทักษะการคิด วิเคราะห์  และการโต้วาทีผ่านทางการสนับสนุนการจัดการแข่งขันการโต้วาทีนี้เอง  ในขณะเดียวกันก็เป็นการเผยแพร่ความตระหนักและความเข้าใจเกี่ยวกับสหภาพยุโรป และลำดับความสำคัญของนโยบายต่าง ๆ ของสหภาพยุโรป 
         นอกจากนี้ ยังได้รับเกียรติจากรศ.นพ.ถวัลย์วงค์  รัตนสิริ รองอธิการบดีฝ่ายวิเทศสัมพันธ์และยุทธศาสตร์ระหว่างประเทศ เป็นประธานในพิธีเปิดงาน ร่วมกับผู้บริหารจากมหาวิทยาลัยขอนแก่น ประกอบด้วย ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายพัฒนานักศึกษาและศิษย์เก่าสัมพันธ์ คณบดีวิทยาลัยการปกครองท้องถิ่น และ Mr. Seth Van Doorn ,Press Attaché, Delegation of the European Union to Thailand ผู้ช่วยทูตฝ่ายการข่าว
          รศ.นพ.ถวัลย์วงค์  รัตนสิริ รองอธิการบดีฝ่ายวิเทศสัมพันธ์และยุทธศาสตร์ระหว่างประเทศ กล่าวว่า การพัฒนาทักษะด้านภาษาอังกฤษ เป็นภารกิจหลักของมหาวิทยาลัยขอนแก่น โดยฝ่ายวิเทศสัมพันธ์ และฝ่ายวิชาการ ได้ร่วมกันอย่างดี  ด้วยเล็งเห็นว่าภาษาอังกฤษ เป็นภาษากลางที่ใช้สื่อสารสู่ประชาคมโลก ทั้งยังเป็นภาษากลางของประชาคมอาเซียน โดยมหาวิทยาลัยขอนแก่นได้มีนโยบายจัดสรรงบประมาณเพื่อพัฒนาภาษาอังกฤษโดยเฉพาะในนักศึกษาและบุคลากร ผลักดันให้ บุคลากร  และนักศึกษาได้มีโอกาสเดินทางไปฝึกทักษะภาษาอังกฤษในกลุ่มประเทศอาเซียน ซึ่งการจัดกิจกรรมการแข่งขันโต้วาทีภาษาอังกฤษ ระดับประเทศ ครั้งที่ 9 นี้ก็เป็นกิจกรรมหนึ่งที่มหาวิทยาลัยได้สนับสนุนและร่วมเป็นเจ้าภาพเป็นครั้งที่ 2
          “ผมรู้สึกทึ่งในความสามารถด้านภาษาของเยาวชนไทย ทำให้เห็นว่ายังมีเยาวชนที่เรียนรู้ พัฒนาทักษะของตนเองอยู่ตลอดเวลา ซึ่งเป็นที่น่าภูมิใจในระดับชาติ นักศึกษามีความมุ่งมั่นตั้งใจ มีความพยายามในการฝึกฝนแข่งขันเป็นอย่างมาก  ทั้งยังมีพื้นฐานภาษาอังกฤษในการฟัง อ่าน เขียน พูด คิด ได้ดีมาก  นอกจากนี้ยังขอชื่นชมทีมเจ้าหน้าที่โดยกองกิจการนักศึกษา ซึ่งเป็นเจ้าภาพหลักในการต้อนรับเยาวชนทั่วประเทศ ได้สละเวลาทำหน้าที่อย่างเข้มแข็ง สามารถจัดงานระดับประเทศได้ เป็นที่ภาคภูมิใจแห่งมหาวิทยาลัยขอนแก่นยิ่ง”  
            สำหรับการแข่งขันโต้วาทีภาษาอังกฤษระดับประเทศ หรือ  European Union Thailand National Intervarsity Debate Championship ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มหาวิทยาลัยขอนแก่นได้มีโอกาสเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันถึง 2 ครั้งด้วยกัน โดยครั้งที่ 8 จัดขึ้นที่คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยขอนแก่น  และครั้งที่ 9 นี้จัดขึ้นที่วิทยาลัยการปกครองท้องถิ่น มหาวิทยาลัยขอนแก่น
            บรรยากาศภายในงานเต็มไปด้วยนักเรียนและนักศึกษาทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศต่างนำเสนอหัวข้อในการโต้วาทีจากนโยบายของสหภาพยุโรปในด้านต่างๆเช่น การเมืองและประชาธิปไตย การเงินและเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพศ การกีดกันทางสังคมและความแตกต่าง สิทธิมนุษยชนและกฎหมาย และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ผู้ร่วมงานมีความกระตือรือร้นในการเรียนรู้
            ในตอนท้ายได้มีการสอบถาม นักเรียน นิสิต และนักศึกษา ชาวไทยถึงความสนใจในการพัฒนาทักษะด้านภาษาอังกฤษ ต่างลงความเห็นเป็นเสียงเดียวกันว่า การศึกษาเรียนรู้พัฒนาตนเองให้มีความเชี่ยวชาญด้านภาษาอังกฤษ นอกจากจะทำให้มีความรู้ติดตัวแล้ว ยังเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้ตนมีข้อได้เปรียบในตลาดแรงงานในระดับสากลอีกด้วย

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบ

http://www.kku.ac.th/news/v.php?q=0006199&l=th