ม.อ.จัดเสวนาเรื่อง “ขุมทองเมืองลุง : ประวัติศาสตร์และคุณค่า”

รศ.ดร.ชูศักดิ์ ลิ่มสกุล เป็นประธานในพิธีเปิดงานเสวนาเรื่อง “ขุมทองเมืองลุง : ประวัติศาสตร์และคุณค่า” ณ ห้องประชุม Conference Hall ศูนย์ประชุมนานาชาติฉลองสิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ในงานเสวนาครั้งนี้ได้เชิญวิทยากรร่วมเสวนาครั้งนี้ ได้แก่ ผศ.ดรศรีสุพร ปิยรัตนวงศ์ หัวหน้าภาควิชาสารัตถศึกษา คณะศิลปะศาสตร์ ม.อ.ผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์ อ.วีระพงศ์ ยศบุญเรือง ผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์ คณะมนุษย์ศาสตร์และสังคมศาสตร์ ม.อ. นายนิพันธ์ เมืองสง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเขาชัยสน นายอาณัติ บำรุงวงศ์ ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ 14 นครศรีธรรมราช นายเริงชัย วิริยะกุล ประธานชมรมร้านทองหาดใหญ่ และนายกสมาคมศิษย์เก่าโรงเรียนหาดใหญ่วิทยาลัยและดำเนินรายการโดย คุณบัญชร วิเชียรศรี จากสถานีวิทยุ ม.อ. หาดใหญ่

จากสื่อที่ปรากฏในช่วงที่ผ่านมาเกี่ยวกับการขุดทอง ใน อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง ถึงเรื่องอาถรรพ์ ปรากฏการณ์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการนำทองที่ขุดได้คืน หรือ นำดินมาคืนก็ดี และการล้มป่วยของคนขับรถแม็คโครต้องเดินทางมาขอขมา ก็ดีล้วนแล้วแต่เป็นความเชื่อที่คิดกันว่ามาจากเรื่องการขุดทอง แต่เคราะห์ดียังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต

นายนิพันธ์ เมืองสง กล่าวเปิดว่าช่วงที่ตนรู้นั้น ตนและกำนันได้เข้าไปในพื้นที่และได้ดูทองของชาวบ้านในระแวกและคนนอกพื้นที่อีกมากมาย มาขุดนั้นเป็นพื้นที่นาปรับเป็นสวนปาล์ม มีคูล่องน้ำตรงกลาง ซึ่งทองที่ได้เป็นลักษณะทองแผ่นพับยังไม่ได้ทำความสะอาด ขนาดประมาณ นิ้วครึ่ง ได้เทียบและสัมผัสทองที่ขุดได้นั้น เป็นทองเนื้อดี สวยงาม มีความต่างอย่างชัดเจน จุดที่เจอทองเป็นบริเวณหัวแปลงทางด้านทิศเหนือ ทองที่ขุดได้มานั้นเป็นทองที่ทำมาด้วยความประณีต บริเวณแผ่นทองจะมีลักษณะคล้ายอักขยะเหมือนอักษรจีน สำหรับทองรูปพรรณ การประทับตราเป็นสัญลักษณ์โดยมาก จะประทับตราเพื่อระบุถึงโรงงาน ผู้ผลิต แหล่งที่มา ต้นทาง โดยทองที่ขุดพบนั้นมาจากไห ซึ่งมีตัวเลขระบุ และคล้ายเป็นโลโก้ เป็นตัวอักษรภาษาอังกฤษ คือ ตัว P V K และ K145/254 และ 1962 อาจจะเป็นตัวเลขของโรงงาน หรือผู้ผลิต ซึ่งเห็นได้ชัดเจนจากด้านข้างของไห สอดคล้องกับคุณเริงชัย วิริยะกุล กล่าวว่าส่วนมากทองหรือของโบราณจะเก็บไว้ในตุ่ม หรือ ไห แต่ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ในตอนนี้ว่าทองที่ขุดพบอยู่ในไหที่มี่ตัวเลขและโลโก้สัญลักษณ์กำกับไว้

แม้จะคาดว่าทองที่พบจะมีจำนวนไม่มากนัก แต่ขณะนี้ทางสมาคมผู้ค้าทองในหาดใหญ่ได้ชลอการรับซื้อทองที่ได้จากการขุดพบไว้แล้ว เนื่องจากถือว่าเป็นสมบัติของแผ่นดินที่การครอบครองไว้ถือว่าผิดกฎหมายพื้นที่ที่มีการพบทอง อยู่ในเส้นทางของการคมนาคมขนส่งในยุคโบราณสำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางข้ามคาบสมุทรโดยไม่ต้องการอ้อมแหลมมลายู โดยใช้การเดินทางทางเรือจากฝั่งอ่าวไทยมายังทะเลสาบสงขลา แล้วนำเรือเข้าผ่านคลองซึ่งอาจจะกว้างขวางกว่าปัจจุบันเข้ามาในแผ่นดิน แล้วเปลี่ยนไปใช้เส้นทางทางบกเมื่อผ่านเขาบรรทัด เพื่อข้ามไปกันตังและต่อไปยังมหาสมุทรอินเดียต่อไป และในพื้นที่ประเทศมาเลเซียโบราณยังปรากฎมีแหล่งทองคำอยู่หลายแห่งบางข้อสันนิษฐานยังเชื่อมโยงถึงตำนานการสร้างพระบรมธาตุนครศรีธรรมราช ซึ่งพุทธศาสนิกชนในยุคนั้นตื่นตัวที่จะมีส่วนร่วมนำทรัพย์สินเข้าสมทบในการสร้าง ดังตำนานของภาคใต้จำนวนหลายเรื่องที่มีการกล่าวถึงการก่อสร้างดังกล่าวแต่ไม่ว่าผลการพิสูจน์ที่มาของทองคำที่พบนี้จะออกมาอย่างไร แต่นี่คือ “โอกาสทอง” ของชาวภาคใต้และชาวไทยที่จะได้มาสะสางเรื่องราวประวัติศาสตร์ท้องถิ่น เพื่อปลุกสำนึกความรัก ความภูมิใจ ความศรัทธาและเชื่อมั่นในความเป็นไทย ให้เราได้หันหน้าเข้าหากัน และมีความเข้าใจในความต่างด้านภาษาและวัฒนธรรมของคนในแผ่นดินเดียวกัน

  

**********************************

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบ http://www.psu.ac.th/th/node/6453