26 มิถุนายน 2558 กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี / ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี แถลงผลสำเร็จการพัฒนาเทคโนโลยีเครื่องจักรต้นแบบในโครงการพัฒนาและถ่ายทอดเทคโนโลยีด้วยกระบวนการวิศวกรรมเพื่อการสร้างสรรค์คุณค่า 4 ชิ้น โดยความร่วมมือของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ สมาคมเครื่องจักรกลไทย และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่งเป็นการดำเนินงานตามคำแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรีที่ต้องการผลักดันงานวิจัยและพัฒนาไปสู่การใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ โดยส่งเสริมความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัย หน่วยงานวิจัยของรัฐ และภาคเอกชน ที่เรียกว่าโมเดล Triple Helix
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ กล่าวว่า ประเทศไทยจำเป็นต้องอาศัยนวัตกรรมเพื่อยกระดับขีดความสามารถของภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมให้แข่งขันได้กับนานาประเทศ โดยใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างนวัตกรรม ตนรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ภาคเอกชนประสบความสำเร็จในการสร้างสรรค์เทคโนโลยีที่ตอบโจทย์ในด้านต่างๆ ของประเทศไทย ผลงานเทคโนโลยีเครื่องจักรกลต้นแบบที่พัฒนาโดยคนไทยในวันนี้ทั้ง 4 ชิ้น ได้แก่
1.ชุดเครื่องจักรระบบล้างและปรับปรุงคุณภาพขยะพลาสติกสำหรับการผลิตน้ำมันเชื้อเพลิง
2. ระบบติดตามการเจริญเติบโตสำหรับอุตสาหกรรมผลิตไก่เนื้อ
3. ระบบจ่ายวัคซีนสำหรับอุตสาหกรรมผลิตไก่เนื้อ และ
4. ลิฟต์โดยสารสำหรับงานก่อสร้าง เป็นตัวอย่างความสำเร็จที่พร้อมที่จะต่อยอดเชิงพาณิชย์
“รัฐบาลภายใต้การนำของท่านนายกรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้ความสำคัญกับการพัฒนาสินค้าไทยที่ได้มาตรฐาน ซึ่งในขณะนี้รัฐได้เปิดช่องกลไกตลาดภาครัฐแล้ว โดยให้หน่วยงานภาครัฐสามารถจัดซื้อจัดจ้างสินค้าไทยจากบัญชีนวัตกรรมไทย ภาคเอกชนต้องเร่งบรรจุสินค้าไทยในบัญชีนวัตกรรม โดยนำสินค้าที่ได้รับการรับรองมาตรฐานมาขึ้นทะเบียนที่ www.innovation.go.th และทำงานร่วมกับหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องโดยเร็ว” ดร.พิเชฐ กล่าว
สำหรับเทคโนโลยีชิ้นแรก คือ ชุดเครื่องจักรสำหรับกระบวนการล้างและปรับปรุงคุณภาพขยะพลาสติกเพื่อการผลิตน้ำมันเชื้อเพลิง เป็นผลงานที่ร่วมทุนวิจัยและพัฒนากับบริษัท วิศวกรรมบริการบำรุงรักษา จำกัด ในการพัฒนาชุดเครื่องจักรสำหรับการล้างขยะพลาสติกจากหลุมฝังกลบ และชุดเครื่องจักรสำหรับการปรับปรุงคุณภาพขยะพลาสติก ซึ่งสามารถล้างขยะพลาสติกและปั่นแห้งพลาสติกในเครื่องเดียวกัน มีกำลังการผลิต 3-5 ตัน/วัน ซึ่งหากนำเข้าจะมีราคาประมาณ 12-15 ล้านบาท แต่ผลงานที่พัฒนาโดยคนไทยนี้จะตั้งขายด้วยราคาเพียง 5 - 8 ล้านบาท
เทคโนโลยีชิ้นที่สองเป็นการพัฒนามาตรฐานการปศุสัตว์ของไทยโดยความร่วมมือกับ บริษัท อกรินโนเวท จำกัด ในการพัฒนาระบบติดตามการเจริญเติบโตและระบบจ่ายวัคซีนในโรงเรือนระบบอัตโนมัติ สำหรับอุตสาหกรรมผลิตไก่เนื้อ สามารถเลือกบันทึกค่าอัตราการจ่ายอาหารเทียบกับน้ำหนักไก่ที่ได้เพื่อเก็บข้อมูลประสิทธิภาพการให้อาหารไก่ตลอดระยะเวลาการเพาะเลี้ยงเนื้อไก่ สามารถลดต้นทุนการนำเข้าได้มากกว่าสองเท่าต่อโรงเรือน
เทคโนโลยีชิ้นที่สามจาก บริษัท อกรินโนเวท จำกัด เช่นกัน เป็นเครื่องจ่ายวัคซีนที่สามารถให้วัคซีนแก่การเลี้ยงไก่ถึง 22 ล้านตัว/สัปดาห์ สามารถจัดจำหน่ายได้ในราคา 14,500 บาท/โรงเรือน เทียบกับราคานำเข้าที่ประมาณ 34,000 บาท/โรงเรือน
เทคโนโลยีชิ้นสุดท้ายเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และบริษัท คอนสโก เอ็นเตอร์ไพรเซส จำกัด คือ ระบบลิฟท์โดยสารก่อสร้างขนาดใหญ่บรรทุกนำ้หนักได้ 2 ตัน ประหยัดการนำเข้าได้ 2 ล้านบาทต่อชุด
โครงการสร้างเครื่องจักรต้นแบบด้วยกระบวนการวิศวกรรมเพื่อการสร้างสรรค์คุณค่า เน้นการพัฒนาเทคโนโลยีแบบ “ก้าวกระโดด” ทำให้ลดการวิจัยพัฒนาแบบ “ลองผิดลองถูก” เป็นการร่วมทุนระหว่างภาครัฐและเอกชนแบบครึ่ง-ครึ่ง ที่ผ่านมามีการร่วมทุนมากกว่า 640 ล้านบาท สนับสนุนโครงการมากถึง 125 โครงการ และก่อให้เกิดมูลค่าต่อระบบเศรษฐกิจในภาพรวมถึง 3 - 4 เท่าของการลงทุน หรือประมาณการเป็นมูลค่ามากกว่า 2,000 ล้านบาท โดยมีผู้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีจากโครงการมากกว่า 3,500 คน แล้ว
รูปเพิ่มเติมที่ FB : สวทช.-NSTDA
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพ