(16 ก.พ. 59) ณ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กรุงเทพฯ - สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ร่วมกับ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และสำนักงานเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (สทอภ.) เผยผลสำเร็จโครงการความร่วมมือ “การยกระดับและพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการ SMEs ด้านสินค้าผักและผลไม้ เพื่อเตรียมความพร้อมสู่ AEC ด้วย ThaiGAP” ในด้านผลการดำเนินงาน การขยายผล และการเชื่อมโยงไปสู่คณะกรรมการเกษตรสมัยใหม่ นับเป็นการสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้บริโภค และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าเกษตรไทยสามารถแข่งขันได้ในตลาดสากล ตั้งเป้าภายในปี 2560 จะมีผู้ประกอบการ 50 ราย ได้รับรองมาตรฐาน ThaiGAP
นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า “สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย มีความมุ่งมั่นในการบูรณาการความร่วมมือการสร้างความรับผิดชอบด้านความปลอดภัยของสินค้า โดยเฉพาะการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยสินค้าเกษตรของไทย ซึ่งจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อการขยายตลาดและสร้างมูลค่าเพิ่มสินค้าเกษตรของไทย ให้เป็นที่ยอมรับของตลาดในประเทศและต่างประเทศอย่างเป็นรูปธรรม รัฐบาลจึงได้มีแผนการทำงานร่วมรัฐและเอกชน หรือที่เรียกว่า “คณะทำงานสานพลังประชารัฐ” เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ ซึ่งการพัฒนาเกษตรสมัยใหม่ เป็นหนึ่งเรื่องที่รัฐบาลให้ความสำคัญ และเห็นว่าภาคเอกชนจะเข้ามาช่วยในการพัฒนาด้านการบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในอนาคตภาคการเกษตรของบ้านเรา จะต้องมีการปรับตัวและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน โดยการพัฒนาและเพิ่มมูลค่าทั้งห่วงโซ่ (Value Chain) แต่ที่ผ่านมามีเพียงการพัฒนาในส่วนของปลายน้ำ เกษตรต้นน้ำยังไม่ค่อยได้รับการพัฒนา ยังคงใช้แนวทางแบบดั้งเดิม ทำให้การบริหารจัดการไม่ทันต่อการเปลี่ยนแปลง โดยการพัฒนาเกษตรสมัยใหม่ จะต้องมีการเสริมสร้างเกษตรกรต้นน้ำ ให้มีความรู้ความเข้าใจในการบริหารจัดการผลักดันให้ใช้ตลาดเป็นตัวนำการผลิต ในส่วนของหอการค้าฯ ได้เข้ามามีส่วนร่วมพัฒนาโดยใช้กลไกของหอการค้าจังหวัด ที่มีครอบคลุมทั่วประเทศ นำระบบสหกรณ์การเกษตรมาเป็นตัวขับเคลื่อนในการทำการเกษตรแบบสมัยใหม่ ภายใต้โครงการ ‘1 หอการค้า ดูแลอย่างน้อย 1 สหกรณ์การเกษตร’
นายชูศักดิ์ ชื่นประโยชน์ ประธานคณะกรรมการสถาบันส่งเสริมคุณภาพเกษตรไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า “สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ร่วมกับ โปรแกรม ITAP สวทช. จัดทำโครงการ “ยกระดับและพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการด้านสินค้าผักและผลไม้ เพื่อเตรียมความพร้อมสู่ AEC ด้วย ThaiGAP” เพื่อพัฒนาผู้ผลิตและผู้ประกอบการด้านสินค้าผักและผลไม้ให้ได้รับมาตรฐาน ThaiGAP และส่งเสริมความรู้ความเข้าใจแก่ผู้ประกอบการด้านสินค้าผักและผลไม้ในประเทศ และได้มีการดำเนินโครงการคือ การจัดอบรม การให้คำปรึกษา แนะนำ โดยทีมผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์กำแพงแสน และการตรวจรับรองฟาร์มจากหน่วยตรวจรับรอง (CB) โดยในปี 2559 นี้ จะมีบริษัทที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน ThaiGAP จำนวน 17 บริษัท ที่ผลิตทั้งผักและผลไม้สด และจัดจำหน่ายตามห้างค้าปลีกชั้นนำของประเทศ คือ ห้างแม็คโคร ท็อปส์ ซุปเปอร์มาร์เก็ต ซีพีออลล์ และเทสโก้ โลตัส สำหรับหน่วยตรวจรับรองที่ทำการตรวจรับรองให้กับมาตรฐานThaiGAP นั้น เป็นหน่วยตรวจรับรองที่ได้รับมาตรฐานสากล ISO/IEC GUIDE 65 ซึ่งทำให้มั่นใจได้ว่ามีการตรวจรับรองที่เข้มงวดและเคร่งครัด นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับมาตรฐาน ThaiGAP ยังมีระบบตรวจสอบย้อนกลับ โดย QR Code ที่ได้รับความร่วมมือจาก GISTDA ด้วยการสแกน QR Code ที่ติดบนผลิตผล สามารถสอบกลับไปถึงตำแหน่งที่ตั้งของฟาร์มผลิต รายละเอียดของเกษตรกรที่ขอการรับรองระบบการผลิต ได้อย่างถูกต้อง ทั้งนี้ มาตรฐาน ThaiGAP เป็นนวัตกรรมใหม่ที่ทำให้เกิดเป็นมาตรฐานของภาคเอกชนในการขับเคลื่อนระบบการผลิตสินค้าเกษตรที่ปลอดภัยให้เป็นรูปธรรม มีการนำไปปฎิบัติใช้จริง และได้รับการยอมรับของผู้บริโภคทั้งในประเทศและในตลาดสากล”
นางสาวชนากานต์ สันตยานนท์ ที่ปรึกษาอาวุโส โปรแกรม ITAP สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กล่าวว่า “สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ร่วมมือกับ สวทช. ดำเนินโครงการความร่วมมือ “การยกระดับและพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการด้านสินค้าผักและผลไม้เพื่อเตรียมความพร้อมสู่ AEC ด้วย ThaiGAP” เพื่อผลักดันมาตรฐาน ThaiGAP ให้เทียบชั้นมาตรฐานสากล เป็นการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยของผักผลไม้ไทยเพื่อเตรียมพร้อมพัฒนาผู้ประกอบการเข้าสู่ AEC ตอบสนองภารกิจหลักของโปรแกรมสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีของอุตสาหกรรมไทย (Innovation and Technology Assistance Program) หรือ ITAP ของ สวทช. ในการส่งเสริม SMEs ไทยเพื่อรองรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ที่จะมีการเปิดเสรีด้านการค้า การลงทุน เงินทุน และ แรงงานมีฝีมือ”“โดยโปรแกรม ITAP คาดหวังว่าโครงการนี้ จะช่วยส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการของไทยในเชิงบวก หากผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการฯ ได้รับการรับรองมาตรฐาน ThaiGAP ซึ่งถือเป็นการพัฒนามาตรฐานระบบการผลิตสำหรับภาคการเกษตรให้ตอบสนองความต้องการของผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมด้านสินค้าผักและผลไม้ เนื่องด้วยปัจจุบันผู้บริโภคมีความระมัดระวังในการเลือกบริโภคสินค้าได้มาตรฐานด้านความปลอดภัยและมีคุณภาพมากขึ้น ซึ่งการดำเนินโครงการดังกล่าวได้รับความร่วมมืออย่างดีจากสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และคณะผู้เชี่ยวชาญโครงการฯ จากคณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กำแพงแสน รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ตลอดจนขอแสดงความยินดีกับผู้ประกอบการทั้ง 17 รายในโครงการฯ ที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน ThaiGAP และในปี 2559 นี้ โปรแกรม ITAP ตั้งเป้าผู้ประกอบการรายใหม่ๆ ที่จะมาขอรับการสนับสนุนด้านงบประมาณที่ได้ถูกจัดสรรไว้รอแล้ว โดยเป้าหมายคือ การสนับสนุนผู้ประกอบการจำนวน 50 ราย ให้ได้รับการรับรองมาตรฐาน ThaiGAP ภายในปี 2560” นางสาวชนากานต์ สันตยานนท์ กล่าว
ขอบคุณข้อมูลจาก : http://www.nstda.or.th/news/21849-itap