รัฐเชื่อมั่นผลงานวิจัยแก้ปัญหาประเทศ

   ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เดินทางมาตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายแก่บุคลากรสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ(วช.) ที่อาคารวช.1 สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติโดยมี นางสาวสุกัญญา ธีระกูรณ์เลิศ เลขาธิการ วช. พร้อมผู้บริหาร ข้าราชการ ลูกจ้างและเจ้าหน้าที่ ต้อนรับ

ม.ล.ปนัดดา กล่าวว่า วช.เป็นความก้าวไกลของประเทศที่แสดงถึงความเป็นอริยะทางวิชาการ อริยะทางความคิด มีนักวิทยาศาสตร์ นักวิจัย และเครื่องมือ ดังนั้นหากประเทศไทยสามารถพัฒนากรอบความคิด ตามที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้ให้กรอบนโยบายไว้ ก็จะบ่งบอกถึงความเป็นประเทศที่พัฒนาได้ เราอาจมีข้อจำกัดเรื่องงบประมาณ บุคลากร อย่างไรก็ตามวช.ได้มีการประกาศเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารงานวิจัยประจำปี ซึ่งนักวิชาการต่างๆ รวมทั้งครูบาอาจารย์ก็ได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพให้เป็นที่ยอมรับทั้งในระดับประเทศ และระหว่างประเทศ ซึ่งน่ายินดีอย่างยิ่ง เช่น วช.ได้จัดนำเสนอผลงานเรื่องการวิจัยข้าว ซึ่งข้าวไทยนั้นมีชื่อเสียงมายาวนาน แต่ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาก็ได้มีการแข่งขันกันสูงระหว่างตลาดของหลายประเทศ ทำให้ไทยอาจถูกกล่าวขานถึงน้อยลง จึงเป็นที่มาของการจัดสัมมนาว่าทำอย่างไรเราจึงจะต่อยอดงานวิจัยโดยให้นักวิทยาศาสตร์ นักวิจัยช่วยกันคิดพัฒนาให้เกิดความสำเร็จ

ตนรู้สึกชื่นชมนักวิจัยรุ่นใหม่ และครูบาอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน มีทั้งที่จบจากในประเทศ และจบจากต่างประเทศซึ่งมีความสามารถมากๆ เป็นดอกเตอร์ตั้งแต่ยังหนุ่ม-สาว เป็นการนำพาสิ่งใหม่ๆ ให้กับสังคมไทยในวันข้างหน้า โดยวช.ได้พยายามผลักดันผลงานวิจัยที่จะตอบโจทย์การพัฒนาประเทศในด้านต่างๆ อย่างต่อเนื่อง

“สำหรับวช.นั้น ผมอยากให้มีการเพิ่มบุคลากรให้มากขึ้น เพราะข้าราชการเป็นพื้นฐานของการพัฒนา พี่น้องประชาชนฝากความหวังไว้กับระบบราชการ อยากให้ราชการเป็นตัวขับเคลื่อนเดินนำหน้า ภาคส่วนอื่นๆ จะได้เดินตามได้และอยากให้มีการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับปัญหาสิ่งแวดล้อมการดำรงชีวิตบนพื้นฐานปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และเกษตรกรรมซึ่งเป็นรายได้หลักของประเทศ ซึ่งเร็วๆ นี้ วช.จะได้นำผลงานวิจัยด้านต่างๆ ไปเสนอที่ทำเนียบรัฐบาล จากนั้นจะได้เผยแพร่ให้ประชาชนรับทราบต่อไป” รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว

ด้านนางสาวสุกัญญา กล่าวว่า การดำเนินงานของสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติในระยะเวลา 6 เดือนแรกเป็นไปตามแผนงานและเป้าหมายที่กำหนด ซึ่งวช.ได้เร่งรัดดำเนินงานในช่วง 6 เดือนหลังอย่างเข้มแข็ง รวมทั้งอยู่ในช่วงเวลาเตรียมการขับเคลื่อนตามยุทธศาสตร์องค์กรฉบับใหม่ระหว่างปี 2560-2564 ทั้งนี้ วช.ได้ยึดแนวทางการปฏิรูประบบงานวิจัย และบริหารจัดการความรู้จากงานวิจัยเพื่อการใช้ประโยชน์ในการพัฒนาประเทศ มีเป้าหมายดำเนินการอย่างมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน โดยร่วมกับหน่วยงานต่างๆ นำเอางานวิจัยลงไปพัฒนา เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้า เช่น การใช้เทคโนโลยีปุ๋ยสั่งตัด การวิจัยเรื่องข้าว เป็นต้น   

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพ

http://www.naewna.com/local/217783